Monday, September 20, 2010

ประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์มากๆ ถ้าหากแตกตัวจนเหลือ 1 คน ต่อ 1 กลุ่ม



โดยธรรมชาติของนักประชาธิปไตยจะแตกตัวจนกลายเป็นสารพัดกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย ทำงานเฉพาะกลุ่มคนที่เข้ากันได้


แต่ที่จริงถ้าจะให้สมบูรณ์ที่สุดคือกลุ่มละ 1 คนแตกตัวได้แบบนี้เมื่อไหร่คุมกันยากมากๆและนี่แหล่ะคือสิ่งที่ดีเพราะคุมกันง่ายๆ พวกสั่งซ้ายหันขวาหันได้จะชอบใจพวกที่ถูกสั่งสอนอบรมมาในระบบประเพณีเก่าๆ อาจจะชอบแต่ไม่มีประโยชน์ในระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์สมบูรณ์สุดขีด


คือ กลุ่มละ 1 คนคือมีแค่คนเดียว ทำงานได้สั่งการตนเองไปร่วมงานนั้นงานนี้ได้โดยไม่ต้องมีกลุ่มตายตัวมาบังคับถ้ามีกลุ่มตายตัวมาบังคับ


เช่น คุณสังกัดกลุ่ม Aพอพวกกลุ่ม B จัดงานก็ไม่คิดจะไปเพราะถือว่าคนละกลุ่มทั้งๆ ที่ว่า งานที่กลุ่ม B จัดมีเป้าหมายแนวทางคล้ายกันเลยซึ่งถ้าคนที่มีกลุ่มแค่คนเดียวหรือตนเองสามารถไปงานนั้นงานนี้โดยไม่ต้องสนใจว่าใครจะจัดสนใจแต่ว่า งานนั้นมีเป้าหมายเดียวกันไหม


ดีกว่า เป็นแฟนคลับกลุ่มนี้พวกอื่นจัดฉันไม่ไป หรือคนในกลุ่มบอกไม่ไปก็ไม่ไป ทั้งๆ ที่ใจต้องการจะไป




การจะเป็นเสรีชนได้อย่าไปยึดพรรคยึดพวกมากแต่ไม่ใช่ไม่ให้ยึดยึดได้แต่อย่าแน่นจนไม่ไปสังสรรกับกลุ่ม อื่นๆ


หรืองานกลุ่มอื่นเพราะมันไม่ใช่แนวทางเสรีชนคนทำอะไรได้อิสระเพราะยังต้องรอคำสั่ง ยังต้องรอมติ ยังต้องรอนั่นนี่


ยกตัวอย่างให้เห็นภาพหน่อยสมมุติฝ่ายรัฐบาลส่งคนมาร่วมกลุ่มมากกว่าพวกอื่น หรือระดับแกนนำเป็นคนของรัฐบาลส่งมาควบคุมมวลชนเขาลงมติไม่ไปร่วมงานที่จะไล่รัฐบาลทุกคน ทำตามเพราะสังกัดกลุ่มทั้งๆ ที่ใจอยากไปร่วมไล่ใจจะขาด แบบนี้กับอีกแบบคือไปร่วมกลุ่มนี้ด้วยเหมือนกันแต่กลุ่มนี้เขาบอกไม่ไป แต่เราวิเคราะห์แล้วหรือว่าใจมันบอกว่าทนไม่ไหวต้องไปร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มนั้น เราก็ตัดสินใจได้เลยเพราะเรามีแค่คนเดียววิเคราะห์ได้เอง


ใช้ใจตัดสินใจเดินทางไปเองไม่จำเป็นต้องรอให้คนนั้นคนนี้สั่งให้ไปถึงไปกันได้ เป็นต้นหรือเมื่อถึงวันที่ได้ประชาธิปไตยเต็มใบรัฐบาลที่เราเลือกที่เราเชียร์อาจออกนโยบายที่เราเห็นว่าไม่ดีเราสามารถคัดค้านได้ถ้าเราเป็นเสรีชนแต่ถ้าเรายึดหลักเล่นพรรคเล่นพวกเราก็จะแกล้งทำเป็นไม่เห็นหรือออกมาช่วยแถหน้า เ ป็นไปเลยก็ได้มันไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริงสมบูรณ์เท่าไหร่ประชาธิปไตยที่แท้จริงสมบูรณ์ได้จริงๆ


ภาคประชาชนต้องแข็งแรงสุดๆเพื่อคอยควบคุมรัฐบาลให้อยู่ในร่องในรอยโดยแต่ละคนจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจทางการเมืองและตัดสินใจออกมาร่วมเคลื่อนไหวได้ทันทีถ้าเห็นว่าทนไม่ไหว


เรื่องนั้นเรื่องนี้ไร้ความเป็นธรรมหรือประชาธิปไตยถูกปล้นไปออกมาได้เลยไม่ต้องรอให้ใครสั่งเหมือนครั้งแรกที่ผมไปสนามหลวง วันที่ 10 ธันวาคม 49ถือเป็นวันที่วุ่นวายที่สุด แต่ผมชอบที่สุด ในวันนั้นที่ผมไปร่วมม็อบต่อต้านรัฐบาลครั้งแรกเป็นรัฐบาลของพวก คมช. เสียด้วยพบว่ามีผู้คนเดินทางมาที่สนามหลวงต่างมากันเอง คนเดียวบ้าง สองคนบ้างมากันทั้งครอบครัวบ้าง


ไปถึงเห็นเวทีตั้งอยู่รอบสนามหลวงเป็นเวทีเล็กๆ เครื่องเสียงพอฟังได้ยกเว้นฝั่งที่พวก คมช. จัดมาเครื่องเสียง เวที เหมือนยกมาจากเวทีพันธมิตรยังไงยังงั้นมาเรียกร้องเรื่องของนักศึกษา แต่หน้าตาแต่ละคนเกิน 30แถมปราศรัยด่าพวกที่มาร่วมกันต่อต้าน คมช.แถมยกหาง คมช. แต่มีหน้าม้ามาฟังไม่กี่สิบคนแต่เครื่องเสียงดังสุดกระหึ่มไปทั่วสนามหลวง


นอกนั้นอีก 3-4 กลุ่มย่อยผู้คนก็เดินไปฟังกลุ่มนั้นทีกลุ่มนี้ทีสุดท้ายสู้ๆ กันไปหลายๆ ครั้งก็ยุบรวมกันที่ละกลุ่มสองกลุ่มจนสุดท้ายกลายมาเป็นเสื้อแดงกันหมดในวันนี้แต่ในเสื้อแดงก็มีสารพัดกลุ่มย่อยเหมือนเดิมเรียกว่าการแยกตัวแตกตัวไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้ายังถือฝ่ายประชาธิปไตยอยู่ ยกเว้นพวกฝ่ายเผด็จการแล้วมาอาศัยมั่วว่าเป็นพวกประชาธิปไตยแบบนี้แตกตัวไปก็เป็นเรื่องน่ายินดี ดีกว่ามารวมกันจนทำให้กลุ่มอื่นเพี้ยนตามไปด้วยสิ่งที่ชอบผู้คนที่ไปวันที่ 10 ธันวาคม


ปีนั้นเพราะยังไม่มีแกนนำที่แท้จริงเลยมีแต่กลุ่มเล็กกลุ่มน้อยการประชาสัมพันธ์ที่ถูกปิดกั้นยิ่งกว่านี้เขายังพาใจเสี่ยงตายไปกันโดยไม่จำเป็นต้องรอว่ามีใครเป็นแกนนำ ดังไหม น่าสนใจ ถึงจะไปเลยนี่คือเสรีชนแล้วหล่ะและอยากให้มีแบบนี้มากๆไม่อยากให้ยึดแบบเล่นพรรคเล่นพวกกันให้มากยึดพอหลวมๆ


แต่พร้อมร่วมกับทุกกลุ่มที่ดำเนินการตามที่เราเห็นชอบและอนุมัติไม่ต้องรอใครอนุมัติถ้าเป็นเสรีชนกันเยอะแยะแบบนี้สักหลายหมื่นหลายแสนคน คุณลองคิดดูว่าใครจะกล้ามาทำรัฐปะรหารใครจะกล้ามาเป็นรัฐบาลทำตัวไม่เห็นหัวคนแบบนี้และจะหาเรื่องจัดการยังไงแกนนำก็ไม่รู้ใครไม่มีแกนนำมันก็ไปกันเองได้จะทำให้แตกแยกยังไงในเมื่อมันแตกจนเป็น 1 ต่อ 1 แล้วละเอียดย่อยเล็กสุดๆ


แล้วแตกไม่ได้ อีกแล้ว จะใช้แผนทำให้แตกแยกทำไม่ได้ยกเว้นปั่นหัวเล่นแต่ถ้าคนเป็นเสรีชนจริง มีอุดมการณ์จริงถูกฝึกมาให้คิดและวิเคราะห์ได้เองไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาวิเคราะห์ให้ฟังช่วงแรกๆ อาจต้องมีบ้างที่ต้องฝึกฟังฝึกอ่านการวิเคราะห์โดยตั้งใจว่าเราจะวิเคราะห์เองได้สักวันหนึ่งเขาจะเลือกข้างถูกเสมอ





ไม่ว่าใครจะมาปั่นหัวยังไงสุดท้ายเขาจะเลือกข้างฝ่ายประชาธิปไตยแน่นอนยกเว้นพวกฝ่ายตรงข้ามแฝงตัวมาถึงจะไปเลือกเข้าทางฝ่ายตรงข้ามกับไม่เท่าทันเกมการเมืองพวกหลังนี่แยกออกจากพวกแรกง่ายดูจากการอธิบายเหตุผลแย้งถ้าเขารู้ทันเกมแล้วเขาจะตัดสินใจเลือก ข้างถูกไม่เหมือนพวกแรกยังไงกูก็จะหาเรื่องทำให้เข้าทางฝ่ายเผด็จการแถมอีกเรื่องหนึ่งคือในฝ่ายประชาธิปไตย


อาจมีบางคนชอบแนวนโยบายประชานิยม สังคมนิยม เสรีนิยมอะไรก็เป็นเรื่องปกติ ให้ประชาชนส่วนใหญ่ตัดสินณ สถานการณ์หนึ่งๆ เขาอาจเลือกพรรคที่มีนโยบายทุนนิยมณ สถานการณ์หนึ่งเขาอาจเลือกนโยบายพวกสังคมนิยมถือเป็นอำนาจตัดสินใจของประชาชนส่วนใหญ่ ณ ช่วงเวลานั้นๆแต่ประเภทต้องทุนนิยมเท่านั้น สังคมนิยมเท่านั้นประเทศนี้ห้ามเลือกพวกอื่นอะไรแบบนี้มันไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง


จะเห็นได้ว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงคุมทุกกลุ่มแนวคิดทางการเมืองเปิดกว้าง เสรีขึ้นอยู่กับความสามารถในการไปหาเสียงหาความนิยมกับประชาชน ของแต่ละพรรคแต่ละกลุ่มเองดังนั้นแนวทางที่จะต่อสู้กับการปั่นหัวควบคุมแกนนำอะไรพวกนี้ คือทำให้ทุกคนเป็นเสรีชนโดยสมบูรณ์สามารถรู้ทันเกม วิเคราะห์เองเป็นและไม่ยึดติดพรรคพวกตายตัวพร้อมเคลื่อนไหวได้ด้วยตนเองแม้คนเดียวก็ตาม


ทำให้มีคนแบบนี้เยอะๆใครรู้อะไรก็มาให้ความรู้แชร์กันเพื่อให้เขาหัดวิเคราะห์ได้เอง และรู้ทันเกมต่างๆ มากขึ้นนี่แหล่ะ คือวิธีการต่อต้านการควบคุมแกนนำหรือปั่นหัวมวลชนได้สำเร็จโดยเฉพาะอุดมการณ์ประชาธิปไตยต้องทำให้เขายึดไว้ให้ได้เพราะถ้าเขามีหลักยึดเรื่องประชาธิปไตยวันที่เขาต้องเลือกข้างไม่ว่าเหตุการณ์อะไรเขาจะเลือกข้างถูก เขาจะเลือกข้างประชาธิปไตย


ไปในแนวเดียวกันประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องการกลัวแตกแยก กลัวการทะเลาะโต้เถียงกันเพราะสิ่งที่กลัวมันคือรากฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตยที่ต้องมีการอภิปรายโต้เถียงกันเพื่อให้ได้แนวคิดที่ดีไม่ใช่ทุบโต๊ะชี้นิ้วสั่งไปทุกเรื่องและการแตกแยกทางความคิดก็เป็นเรื่องปกติทำให้คนรู้จักคิดรุ้จักแย้งไม่ใช่ต้องการทำให้คนเป็นหุ่นยนต์เหมือนพวกเผด็จการที่ห้ามแย้ง ห้ามซัก ห้ามถาม ซาบซึ้งได้อย่างเดียว อะไรแบบนั้น


โดย มาหาอะไร

Monday, September 6, 2010

คำสั่งตาย ”ฆ่าเพื่อรักษาบ้านเมือง"

ที่มา : Gunscm's Blog

น้องเจมส์ แดงเชียงใหม่ 51 จากไปแล้ว .. หลังเที่ยงของวันที่ 4 กันยายน ไม่รู้ว่าพวกเราจะต้องทำพิธีส่งวิญญาณของเสื้อแดงอีกสักกี่คน
ถึงอย่างไรก็ตาม น้องเจมส์ยังไม่ใช่คนสุดท้ายที่ต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของพวกบ้าอำนาจ

ขณะนี้ ในจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน มีเสียงเล่าลือกัน เรื่อง “คำสั่งตาย” ซึ่งมีเป้าหมายอยู่สองกลุ่ม

กลุ่มที่ 1. กลุ่มนักการเมือง ประกอบด้วยนักการเมืองสี่คน คือ ส.ส. บุญทรง(เพื่อไทย เชียงใหม่) ส.ส. สงวน(เพื่อไทย ลำพูน) ส.ส. สถาพร(เพื่อไทย ลำพูน) และนายเพชรวรรต(แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ '51)

กลุ่มที่ 2. กลุ่มผู้นำการเคลื่อนไหวของเสื้อแดง เป็นกลุ่มที่มีภาพตามสื่อ หรือหนังสือ ระหว่างเดือนเมษายน ถึงพฤษภาคม และมีจดหมายเรียกตัวจาก ศอฉ หรือ DSI ขณะนี้บางคนเสียชีวิตแล้ว (ลำพูน 3 เชียงใหม่ 1)


ใครคือผู้ทำหน้าที่สังหาร !!

วันที่ 4 พ.ค. ขณะที่ สุรชัย ขึ้นพูดบนเวทีการเมืองที่ อำเภอสันกำแพง มีการจับกลุ่มเสวนาการเมืองด้านข้างเวที บอกเล่าถึงกลุ่มคนที่ทำงานให้ฝ่ายอำนาจ มีหน้าที่ “ฆ่าเพื่อรักษาบ้านเมือง” เขาเล่าว่าผู้ที่มีส่วนรู้เห็นเรื่องนี้คือ รองผู้บัญชาการภาค ,รักษาการผู้กำกับสืบสวนภาค ,ผู้กำกับสืบสวนจังหวัด และกล่าวถึงทีมงานผู้ลงมือ หัวหน้าทีมชื่อ “จ่าบวม”

ทำไมต้องฆ่าคนไทยเหมือนกัน .... ด้วยเหตุผลว่า “ฆ่าเพื่อรักษาบ้านเมือง”

การสนทนาข้างเวทียังไม่จบ ก็มีเสียงจากบนเวทีดังขึ้น ความว่า การตายฟรีไม่ควรมีอีก เมื่อเขาต้องการฆ่าเราให้ตาย ก็ขอให้ตายอย่างสมศักดิ์ศรี อย่างดีที่สุดคือ

"ชีวิตแลกชีวิต"

Sunday, September 5, 2010

เป้าหมายของผู้มีอำนาจนอกสภา

ที่มา : @gunsCM

เป้าหมายของผู้มีอำนาจนอกสภา
1. ฆ่าผู้นำเสื้อแดง
2. ฆ่าเสื้อแดงที่แสดงออกปรากฎชัดว่าเป็นผู้มีบทบาทในกลุ่มเสื้อแดง

ความคาดหมาย
1. ส่งผลให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่มวลชนเสื้อแดง
2. เมื่อผู้นำถูกทำลายกระบวนการเสื้อแดงก็จะสลายตัว
เสื้อแดงภาคเหนือเริ่มถูกทำลาย ตามกระบวนการ ที่เป็นวัตถุประสงค์ของอำนาจนอกสภา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
1.กลางดึกของวันที่ 21 พ.ค. 53 เสื้อแดงลำพูนสองคนขี่จักยานยนถูกรถเฉี่ยวชนคนซ้อนท้ายเสียชีวิต ที่อำเภอสันป่าตอง เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจใด้ให้คนขับขี่รับว่าเป็นอุบัติเหตุ ทั้งสองคนเป็นเสื้อแดงที่เคยอยู่ในวัดประทุม
2.ที่อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน ผู้ใหญ่เรือง ซึ่งเป็นแกนนำเสื้อแดงในอำเภอถูกยิงตาย ตำรวจยังไม่ทราบสาเหตุ และคนร้าย
3.หลังจากการตายของพ่อหลวงเรืองที่ทุ่งหัวช้าง 1 เดือน เยาวชนเสื้อแดงที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เป็นหลานกำนันคนหนึ่งในอำเภอลี้ ถูกยิงตายขณะเดินทางกลับบ้าน มีคนเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก และชี้ตัวคนร้าย ซึ่งเป็นตำรวจอำเภอลี้ ชาวบ้านเข้าแจ้งความ ตำรวจเข้ามอบตัว แต่กลับไม่มีการพักราชการ กำนันซึ่งเป็นลุงของผู้ตายกล่าวว่า พยานหลายคนถูกข่มขู่
4.หลังจากเผาศพเยาวชนเสื้อแดงที่อำเภอลี้ไม่ถึงเดือน การ์ดเสื้อแดงของเชียงใหม่ 51 ถูกยิงด้วยอาวุธปืน m16 ขณะเดินทางกลับบ้านในเขต อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่

เหตุการณ์ทั้งสี่มีสิ่งที่เหมือนกัน คือ ทุกคนมีรูปในสื่อ ขณะเคลื่อนไหวกับกลุ่มเสื้อแดง บางคนให้ข่าวกับหนังสือหลายฉบับ และทั้งหมด"ได้รับหนังสือรายงานตัวเพื่อให้ข้อมูล ศอฉ" และถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ และตาย ก่อนไปรายงานตัว

การตามทำลายเสื้อแดงยังไม่จบแค่นี้!! !

ตำรวจ ได้ส่งเมีย หรือลูกน้อง ไปเยียม คนเชียงใหม่ ลำพูน ที่ได้รับจดหมายเรียกตัวของ ศอฉ ถึงบ้าน!!! สาเหตุอะไรที่ทำเช่นนี้ ต่อไปนี้ ถ้าแดงลำพูนที่ชื่อ ชา และแดงสันป่าตองที่ชื่อ โอ๋ ถูกทำร้าย หรือถูกฆ่า การไล่ล่านอกระบบก็เกิดขึ้นแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย

เรื่องที่น่าสนใจและเป็นที่สังเกตุ คือ นักฆ่าจากคดีเพชรซาอุ ย้ายมาเป็นตำรวจเชียงใหม่ และบางคนมาเป็นผู้กำกับในอำเภอ....
4/9/53