ราชประชาวิวาทะ ตอนที่ ๔
วันศุกร์ที่ ๒๖ มีนาคม - วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓
โดย : จักรภพ เพ็ญแข
*************************************************************************
(๒๖ มี.ค.) หนังสือ “ไทมส์” ว่าคนไทยรอในหลวง
แก้เหตุการณ์ลุล่วงเลิกใหลหลง
“พฤษภาประชาธรรม” ยังดำรง
กรอบความคิดงุนงงหลงเวลา
“ทักษิณ” งดโฟนอินมาบินเงียบ
ขี่ม้าเลียบค่ายเล่นคงดีกว่า
สังคมเริ่มเปลี่ยนใจใช้เวลา
ไม่เนิ่นช้าคิดอย่าง “ไทมส์” คงตามทัน
ยื่นอุทธรณ์ “ยึดทรัพย์” จับเล่นต่อ
หวังใจขอยุติธรรมเลิกห้ำหั่น
สี่จุดหกหมื่นล้านเงินอัศจรรย์
เป็นความฝันใครหนอจะขอคืน
ฝ่ายตรงข้ามคือโจรเข้าปล้นฆ่า
ปล้นลูกเต้าภรรยาแล้วข่มขืน
ผลักจนตกโคลนตมล้มทั้งยืน
ใครคิดยื่นอุทธรณ์คงอ่อนใจ
แดงเคลื่อนพลอีกครั้งหวังรุกฆาต
ฝ่ายอำมาตย์เพิ่มกำลังระวังใหญ่
จราจรเพิ่มนับพันได้ทันใจ
เกมรุกไล่แมวหนูดูเอามัน
(๒๗ มี.ค.) เดินทางไกลไปถึง “ร. ๑๑”
นึกว่าเสร็จคราวนี้ยึดที่มั่น
“กี้” นำทัพไปทำเนียบพอเหยียบพลัน
ถูกสั่งลั่นให้ถอยทัพกลับเข้ามา
ฝ่ายตรงข้ามแอบแยงว่าแดงแตก
“สุรชัย” ถล่มแหลกยิ่งแตกกว่า
อัดแกนนำไร้กลยุทธ์สุดเวทนา
แต่ปวงประชาย้อนตอบไม่ชอบใจ
อารมณ์คนยกทัพเข้าจับศึก
ท่ามกลางความฮักฮึกเตือนไม่ไหว
นี่แหละคือความจริงทุกสิ่งไป
อารมณ์ใหญ่กว่าปัญญาจนน่ากลัว
เกิดระเบิด “ช่อง ๕” หน้าค่ายทหาร
ไม่ตายด้านตูมลั่นสนั่นทั่ว
ประชาชนบวกทหารคลานระรัว
“กษิต” มั่วออกประกาศวินาศกรรม
(๒๘ มี.ค.) เอ็ม ๖๗ ระเบิดลั่นบ้าน “บรรหาร”
ตำรวจพล่านตรวจสอบกันระส่ำ
แบ็งค์กรุงเทพตลิ่งชันเกิดลั่นซ้ำ
ตัวคนทำหายไปไร้ร่องรอย
นักวิชาการ ๑๕๕ พากันร้อง
รัฐบาลจำต้องลดมาหน่อย
ยุบสภาสามเดือนไม่เกินคอย
เป็นทางถอยจากวิกฤติอย่าปิดทาง
(๒๙ มี.ค.) “เสธ.แดง” ออกโรงมาว่าเราอ่อน
รัฐบาลมันสอนว่ามวยห่าง
ให้ปรับยุทธวิธีมีแนวทาง
แต่เสียงดูเบาบางไร้คนฟัง
ฝนตกหนัก “ทักษิณ” เสนอสู้
รัฐบาลไม่แลดูขุดหลุมฝัง
เมื่อหน้าด้านขนาดนี้จี้ให้พัง
ส่งเสียงดังสู้อำมาตย์จนบาดใจ
“พันธมิตรฯ” ออกโรงจากโลงเก่า
แถลงข่าวเสียงกระเส่าขอเข้าใกล้
ออกคัดค้านนั่นนี่พูดดีไป
แต่ “สนธิ” หายไปไม่เห็นเงา
เจรจารอบสามจะงามไหม
แกนนำถามคนไทยก่อนจะเข้า
เสียงมวลชนชัดใสว่าไม่เอา
จะมุ่งเอาชนะใหญ่เลือดไหลริน
(๓๐ มี.ค.) พรบ. ความมั่นคงฯ
ขยายต่อ กทม. รอบรั้ว และหัวหิน
อ้างประชุมลุ่มน้ำโขงเหมือนตีกิน
ใช้อำนาจจนชินก็สิ้นพลัง
ระเบิดใส่ “มูลนิธิรัฐบุรุษ”
มุ่งตรงจุดจี้ที่คนเชื่อมมนต์ขลัง
ขาด “เปรม” เชื่อมให้คงไร้พลัง
จึงคลุ้มคลั่งสั่งตำรวจตรวจดูแล
ข่าว “ทักษิณ” ถูกขับจับมาเล่น
“สวีเดน” ตอบโต้ว่าตอแหล
ก.ต. ไทยใยโฆษณาสาระแน
ประชาธิปไตยเที่ยงแท้ไม่แคร์ไทย
ประชาธิปัตย์เสนอยุบหกธันวา
แล้วยี่สิบสามมกราเลือกตั้งใหม่
นปช. ตอบลั่นอย่างทันใจ
ยี่สิบล้านแดงไทยระดมมา
ปฏิเสธโดยไม่ปฏิเสธ
รัฐบาลหวังเศษเนื้อตรงหน้า
ก็จะขอสู้ขาดอำมาตยา
ไม่ต้องมาเล่นล้อต่อรองกัน
(๑ เมษ.) เว็บมาสเตอร์ “นปช.ยูเอสเอ”
ถูกจับเข้าซังเตไม่คาดฝัน
“เร๊ดอีเกิ้ล” ถูกส่งไปลงทัณฑ์
เพียงเพราะมั่นใจตามความเป็นคน
ใครกันหนอคือสายฝ่ายอำมาตย์
แอบรุกฆาตรุมจวกกับพวกปล้น
มุ่งทำลายอุดมธรรมที่ดำรง
สักวันหนึ่งมันคงต้องใช้กรรม
แกนนำแดงประกาศพร้อมคุยรอบสาม
แต่ “กอปร์ศักดิ์ฯ” สั่งห้ามจนล้มคว่ำ
อ้างว่าแดงดาวกระจายไม่ชอบธรรม
หากยังย่ำรุมล้อมไม่ยอมคุย
(๒ เมษ.) สหรัฐฯ ออกโรงอ้างเป็นกลาง
ไม่เข้าข้างสีไหนไร้ควันฉุย
แต่ขอเตือนอย่ารุนแรงในการลุย
พร้อมยอมคุยกับทุกสีดีทุกทาง
ยุติธรรมอำพรางระหว่างนี้
เร่งคดี “เร๊ดอีเกิ้ล” รวบหัวหาง
แต่คดี “สนธิ” กลับอำพราง
เลื่อนคดีไปเสียห่างอ้างพยาน
เสื้อชมพูรุมตีสี่เสื้อแดง
คนเวทีเครื่องแรงไม่มองผ่าน
จะเคลื่อนทัพทั่วกรุงมุ่งประจาน
อันธพาลครองเมืองคนของใคร
(๓ เมษ.) แล้วเสื้อแดงปักหลักราชประสงค์
จุดมุ่งหมายจะธำรงให้ยิ่งใหญ่
ประกาศก้องกู่เรื่องทั่วเมืองไทย
ยึดพื้นที่ส่วนใน กทม.
“อภิสิทธิ์” ดิ้นขอให้กลับผ่านฟ้า
ปวงประชาจึงเห็นว่าเป็นต่อ
ปิดแยกราชประสงค์คงเพียงพอ
วอนร้องขอคนไทยเข้าใจกัน
“ทักษิณ” คารวะคนเสื้อแดง
ฝ่ากำแพงยึดแยกเป็นที่มั่น
ราชประสงค์ไร้กำหนดเพื่อกดดัน
หวังคืนวันสว่างใสได้กลับมา
“จตุพร” ประกาศพร้อมทั่วประเทศ
หากถูกปราบขยายเขตไปทั่วหล้า
ศาลากลางทุกจังหวัดจัดคนมา
หากเข่นฆ่าประชาชนเจอคนจริง
(๔ เมษ.) ระเบิดตูมลูกใหญ่ “โพไซดอน”
จากเศษเหล็กปลิวว่อนจนนอนนิ่ง
เอ็ม ๖๗ “เอ็นบีที” ก็มีจริง
แทนที่จะสงบนิ่งยิ่งประลอง
(๖ เมษ.) อีกสองวันระเบิดลงที่ตรงพรรค
“ประชาธิปัตย์” โดนหนักจนเจ็บสอง
เป็นตำรวจเวรยามตามครรลอง
ระเบิดก้องหลังพรรคมุ่งหักใคร
ข่าวเข้ามาสลายม็อบมีรายวัน
แต่เบื้องหลังสารพันเชื่อวันไหน
“ณัฐวุฒิ” ว่าฝ่ายโน้นโยนกันไป
ไม่มีใครกล้ารับมาจับกุม
“ทักษิณ” งดโฟนข้ามสามวันรวด
ใช่เจ็บปวดป่วยไข้ให้เกียรติกลุ่ม
ท่านบอกว่าในวันนี้ที่ชุมนุม
เป็นที่ประชุมยุทธศาสตร์เด็ดขาดไป
การต่อสู้นี้มิใช่เพื่อ “ทักษิณ”
แต่สู้เพื่อแดนดินวิญญาณไพร่
ท่านกลายเป็นผู้ตามให้หามไป
ไม่มีใครบัญชาการนอกบ้านเมือง
(๗ เมษ.) “กี้” นำทัพบุกรัฐสภา
ถูกระเบิดโยนมาหวังมีเรื่อง
มวลชนพร้อมเข้าอัดเพราะขัดเคือง
กะเอาเรื่องรัฐบาลสังหารใคร
แต่สุดท้ายจบลงตรงไกล่เกลี่ย
“อภิวันทน์” ร่วมเคลียร์จนเลิกได้
แดงยอมรับเหตุผลก็ทนไป
เดินทางกลับเวทีใหญ่ในทันที
(๘ เมษ.) สมาคมนักข่าวฯ เขาแถลง
ปิดแต่ทีวีแดงไม่ถูกที่
อ้างฉุกเฉินอย่าละเมิดสื่อที่มี
ใช่เสรีเบ็ดเสร็จเผด็จการ
สามสิบหกเว็ปไซต์ถูกไล่ปิด
อ้างความผิดไม่ชัดดั่งรัฐทหาร
เสรีภาพทุกวันอันตรธาน
สิทธิในข่าวสารผลาญรายวัน
(๙ เมษ.) ลาดหลุมแก้วที่ตั้งของ “ไทยคม”
ทีวีแดงไม่มีชมก็หุนหัน
แก๊สน้ำตาน้ำมาใช้รุกไล่ควัน
บาดเจ็บกันยี่สิบสองต้องพยาบาล
(๑๐ เมษ.) และแล้ว...คืนเลือดกระจายทั่ว
ณ สี่แยกคอกวัวทุ่งสังหาร
กระสุนจริงสาดใส่เป็นสายธาร
มวลชนแดงถูกสังหารผลาญชีวี
อ้างว่าใช้กระสุนยางทุกย่างก้าว
แต่เกิดคาวเลือดยับด้วยทัพผี
ใครอยู่หลังสั่งทัพตัวอัปรีย์
ขอวิญญาณคืนนี้จงเป็นพยาน
แต่ปรากฏกำลังแปลกชำแรกเข้า
ชุดสีดำอมเทาเข้าล้างผลาญ
ช่วยปวงชนคนสู้กับหมู่มาร
จนทหาร ว. บอกถอยออกไป
คนเสื้อแดงบุกโรงพยาบาลควานหาศพ
เกรงมันจะซ่อนหลบศพที่ไหน
นำวีรชนไร้วิญญาณผ่านฟ้าไทย
ขึ้นบูชาอาลัยในเวที
ร่างที่คลุมธงชาติประกาศบอก
เราปวงชนใช่คนนอกมีศักดิ์ศรี
ประกาศฆ่าประชาชนล้วนคนดี
ความอัปรีย์แห่งระบอบตอบอย่างไร
(๑๒ เมษ.) รัฐบาลแก้ตัวเป็นพัลวัน
อ้าง “เสื้อดำ” ผู้ลั่นกระสุนใส่
“ศอฉ.” ร่วมด้วยช่วยแก้ไป
แต่คลิปโชว์ชัดใสใช่มือปืน
คนเสื้อแดงร่วมงานศพวีรชน
ทั่วทิศาหลังล้นเพราะทนฝืน
ฝ่ายตรงข้ามคือทรราชอำนาจปืน
เสียงสะอื้นปนแค้นช่างแน่นทรวง
นั่งดูข่าวของทหารงานเดียวกัน
สื่อทุกสื่อยืนยันงานศพหลวง
ตาสว่างกันหรือไม่ไทยทั้งปวง
สิ่งใดลวงสิ่งใดจริงนิ่งพิจารณา
(๑๕ เมษ.) ราชประสงค์แน่นขนัดเพราะขัดข้อง
อาลัยรักพี่น้องต้องมาหา
เมื่อบ้านเมืองสีดำต้องนำพา
ตั้งใจฆ่าปวงชนย่อมดลใจ
บาปกรรมนี้มีจริงนิ่งไว้ก่อน
ทั่วนครมองตรงไม่สงสัย
เกิดสงครามเราบัดนี้รู้สู้กับใคร
ถึงเวลาแล้วเมืองไทยจักเปลี่ยนแปลง.
No comments:
Post a Comment