ที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นย่อมมีการต่อสู้ << "ความเชื่อ" มักไม่ได้รองรับด้วยเหตุผล "ความเชื่อ" มักไม่ทนต่อความจริง "ความเชื่อ" มักอิงสิ่่งที่พิสูจน์ไม่ได้ >>
Sunday, August 22, 2010
Tuesday, August 17, 2010
นักการเมืองโกง หรือ ข้าราชการโกง (2)
- การขึ้นเงินเดือนข้าราชการเหมือนรัฐบาลไม่เก่งธุรกิจ ตลาดข้าราชการยังมีคนแย่งเข้าจำนวนมาก.. เหมือนสินค้ากำลังขายดี แต่ไปลดราคาเข้าไปอีก :(
- ปัญหาขาดแคลนคนเก่งในระบบราชการไม่ใช่เรื่องเงินเป็นสำคัญ แต่มาจากระบบเจ้าขุนมูลนาย คนทำงานดีสู้คนใกล้นายไม่ได้ เพราะระบบประเมินผลงานอย่างแย่
- นอกจากนี้ในระบบราชการยังมีคนทำงานไม่เต็มที่หรือคนไม่มาทำงานเลย แต่ยังได้เงินเดือนเหมือนคนที่ตั้งใจทำงาน อย่างนี้ย่อมบั่นทอนกำลังใจ
- การไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของข้าราชการระดับสูง ทำให้เกิดการสะดุดในการพัฒนางาน
- ถ้านายกยังไม่สามารถทำให้ข้าราชการเป็นข้าของประชาชนได้.. ก็ยังคงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ท่านวิ่งไล่เงาของทักกี้ และท้ายสุดก็ไม่ได้ใจประชาชน
- ปัญหาขาดแคลนคนเก่งในระบบราชการไม่ใช่เรื่องเงินเป็นสำคัญ แต่มาจากระบบเจ้าขุนมูลนาย คนทำงานดีสู้คนใกล้นายไม่ได้ เพราะระบบประเมินผลงานอย่างแย่
- นอกจากนี้ในระบบราชการยังมีคนทำงานไม่เต็มที่หรือคนไม่มาทำงานเลย แต่ยังได้เงินเดือนเหมือนคนที่ตั้งใจทำงาน อย่างนี้ย่อมบั่นทอนกำลังใจ
- การไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของข้าราชการระดับสูง ทำให้เกิดการสะดุดในการพัฒนางาน
- ถ้านายกยังไม่สามารถทำให้ข้าราชการเป็นข้าของประชาชนได้.. ก็ยังคงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ท่านวิ่งไล่เงาของทักกี้ และท้ายสุดก็ไม่ได้ใจประชาชน
นักการเมืองโกง หรือ ข้าราชการโกง (1)
- ใครที่ว่านักการเมืองเลว แล้วข้าราชการที่โกง (อ้างโกงตามน้ำ) หรือโกงเวลาราชการ อู้งาน ไม่ให้บริการที่ดี นี่แหละคือรากของปัญหาจริงๆ
- อ้างข้าราชการเงินเดือนน้อยเลยมีทุจริต แต่อย่าลืมการเป็นข้าราชการเงินเดือนน้อยแต่แลกมาด้วยสวัสดิการที่ดีกว่าเอกชนนัก
- สิงพิสูจน์คือมีคนสมัครสอบแข่งขันเข้ารับราชการเป็นแสนเป็นล้าน หรือแม้แต่พ่อแม่ยังพยายามยัดลูกเข้าให้ได้ ไม่ดีจริงพ่อแม่คงไม่ทำอย่างนี้หรอก
- สิ่งพิสูจน์ข้าราชการโกง คือ "งบดูงาน" ทุกปิดปีงบประมาณ ด้วยเหตุผลตรรกะว่าหากใช้ไม่หมดปีหน้าจะโดนตัด เลยเอาภาษีประชาชนไปผลาญเพื่อความสุขของพรรคพวก
- นักการเมืองเป็นเพียงหนึ่งในกลไกการโกง แต่ข้าราชการเป็นตัวขับเคลื่อนการโกงที่สำคัญ
- สื่อ ชนชั้นกลาง เรียกร้องให้เลือกคนดีเข้าสภา แต่ไม่เคยเรียกร้องให้ข้าราชการหยุดขับเคลื่อนกลไกการโกง เพราะนักการเมืองโกงด้วยตัวคนเดียวไม่ได้หรอก
- ยุคนี้ข้าราชการเริ่มรู้สึกว่าตนเองเหนือชาวบ้านอีกครั้ง เริ่มมีเรียกค่าทำเรื่องให้ไวขึ้น หรือการให้บริการชาวบ้านแบบเสียมิได้ มันกลับมาแล้ว
- นักการเมืองโกง อย่างเร็ว 4 ปีครั้งหน้าประชาชนไม่เลือกก็ได้ .. แต่ข้าราชการโกง (แถมโกงทั้งชีวิต) ประชาชนจะทำอย่างไร
- อ้างข้าราชการเงินเดือนน้อยเลยมีทุจริต แต่อย่าลืมการเป็นข้าราชการเงินเดือนน้อยแต่แลกมาด้วยสวัสดิการที่ดีกว่าเอกชนนัก
- สิงพิสูจน์คือมีคนสมัครสอบแข่งขันเข้ารับราชการเป็นแสนเป็นล้าน หรือแม้แต่พ่อแม่ยังพยายามยัดลูกเข้าให้ได้ ไม่ดีจริงพ่อแม่คงไม่ทำอย่างนี้หรอก
- สิ่งพิสูจน์ข้าราชการโกง คือ "งบดูงาน" ทุกปิดปีงบประมาณ ด้วยเหตุผลตรรกะว่าหากใช้ไม่หมดปีหน้าจะโดนตัด เลยเอาภาษีประชาชนไปผลาญเพื่อความสุขของพรรคพวก
- นักการเมืองเป็นเพียงหนึ่งในกลไกการโกง แต่ข้าราชการเป็นตัวขับเคลื่อนการโกงที่สำคัญ
- สื่อ ชนชั้นกลาง เรียกร้องให้เลือกคนดีเข้าสภา แต่ไม่เคยเรียกร้องให้ข้าราชการหยุดขับเคลื่อนกลไกการโกง เพราะนักการเมืองโกงด้วยตัวคนเดียวไม่ได้หรอก
- ยุคนี้ข้าราชการเริ่มรู้สึกว่าตนเองเหนือชาวบ้านอีกครั้ง เริ่มมีเรียกค่าทำเรื่องให้ไวขึ้น หรือการให้บริการชาวบ้านแบบเสียมิได้ มันกลับมาแล้ว
- นักการเมืองโกง อย่างเร็ว 4 ปีครั้งหน้าประชาชนไม่เลือกก็ได้ .. แต่ข้าราชการโกง (แถมโกงทั้งชีวิต) ประชาชนจะทำอย่างไร
Saturday, August 7, 2010
RPG พาพบขุนทรัพย์ 2,100 ล้าน
- น้ำมัน 70ล้านลิตร ถ้าคิดตัวเลขกลมๆ ลิตรละ30บาท ก็จะตกเป็นเงิน 2100ล้านบาท
- นั่นคือตัวเลขที่ กรมพลังงานทหารจะต้องตอบคำถามนี้ว่าใครทำอะไรกับเงินก้อนมหึมาอันนี้
- หลายท่านคงรู้เรื่องนี้ดีโดยเฉพาะพวกที่มีญาติมิตรเป็นทหารหรือตนเองรับราชการ ท.ทหาร
- นายทหารผู้ใหญ่ระดับคุมกำลังทั้งหลาย ผบ.พัน ผบ.กรม ผบ.พลผู้บัญชาการมลฑล กลุ่มคนพวกนี้จะมีคูปองน้ำมันเป็นกระตั๊ก
- เรียกว่าเมื่อตนเองปลดเกษียณไปแล้วหรือเสียชีวิตไปแล้วลูกเมียที่ยังคงอยู่ อีก10ปีก็ใช้น้ำมันพวกนี้ไม่หมดเป็นมรดกตกทอดกันไปเลย
- น้ำมันที่เป็นคูปองเติมได้ตลอดชีวิตนี้มันอยู่ที่ไหนมันก็อยู่ในปั้มน้ำมันทั่วไปนี่เองในคูปองนี้จะระบุให้เสร็จแต่ละคูปองเป็นจำนวนลิตร
- เช่นในคูปองระบุเป็นน้ำมันดีเซล 40ลิตรแต่บังเอิญรถของเราที่เข้าไปเติมใช้น้ำมันเบนซินเราจะขอเปลี่ยนจากน้ำมันโซล่าเป็นน้ำเบนซินก็ได้
- โดยเทียบอัตราส่วนตามความเป็นจริง ณ.ขณะนั้นหรือหากวันใดขาดแคลนเงินสดขึ้นมาก็สามารถไปแลกเป็นเงินสดแทนก็ย่อมได้อีก
- ที่กล่าวมานี้ เป็นแค่หน่วยงานเล็กๆหน่วยหนึ่งในหน่วยงานทหารที่มีค่ายทหารอยู่แทบจะทุกจังหวัดในประเทศไทยเท่านั้น
- ยังไม่รวมถึงระดับคีย์แมนบิ๊กๆในกองทัพที่มองเรื่องน้ำมันแค่นี้เป็นแค่น้ำจิ้ม ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลยแบ่งๆกันไป
- 70ล้านลิตรที่ผมเขียนไว้ในตอนต้นคืออะไรหลายท่านคงเดาออกมันคือน้ำมันที่หายไปจากคลังน้ำมันของกรมพลังงานทหาร
- และที่มีเรื่องนี้แดงขึ้นมาก็เพราะบังเอิญมีใครก็ไม่อาจทราบได้ชี้เบาะแสให้โดยการยิงจรวดอาร์พีจี เข้าไปในถังน้ำมันที่บรรจุ 10ล้านลิตร
- เมื่อถังทะลุ น้ำมันดันไม่มี และเมื่อสำรวจดู ผลปรากฏว่าน้ำมันนั้นหายไปจากถังถึง7ถัง รวมกันทั้งหมด 70ล้านลิตร
- มีความพยายามจะออกมาบอกว่าน้ำมันนั้น ได้ถูกเบิกไปแล้วเมื่อครั้งออกมาฆ่าประชาชนที่ราชประสงค์
- แต่ข้อเท็จจริงมันไม่ใช่เพราะ นี่คือคลังน้ำมันสำรองของกรมพลังงานทหารกฎหมายระบุไว้ชัดเจนคลังน้ำมันสำรองนี้จะต้องเต็มเสมอ
- เป็นการสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคงของประเทศ เผื่อไว้ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มิอาจคาดการณ์ได้เท่านั้น
- น้ำมันนี้จะถูกเบิกไปใช้ไม่ได้เลยไม่ว่าเกิดเหตุใดๆนอกเสียจากเกิดวิบัติครั้งใหญ่จนไม่สามารถหาที่อื่นมาใช้ได้จึงสามารถนำน้ำมันนี้ออกมาใช้
- และเมื่อนำมาใช้แล้วจะต้องรีบหากลับมาใช้คืนโดยด่วนความจริงเรื่องนี้มันตรวจสอบไม่ยาก น้ำมันนั้นหายไปไหนใครเอาน้ำมันนี้ออกไป เอาไปทำอะไร
- แค่ ตรวจสอบเส้นทางเดินของน้ำมัน มันง่ายกว่าการตรวจสอบเส้นทางของการเงินซะอีก แค่ตรวจดู บ/ชการเบิกจ่ายน้ำมัน แค่นั้น ก็จะพบอะไรแล้ว
- ถ้าน้ำมันไม่มีการเบิกจ่ายแต่ก็ไม่มีเหลือในถัง สรุปได้ทันทีเลยว่า หาย ไม่มากเรื่อง
- แต่ถ้าพบการเบิกจ่ายก็ตรวจสอบแค่คนอนุมัติก็จะพบเส้นทางคนทำผิดแล้ว
- ดีเอสไอสามารถตรวจสอบเส้นทางเงินของคนเสื้อแดง สลับซับซ้อนมากมายยังสามารถเรียกมาตรวจสอบได้เกือบ100คนทั้งจริงบ้างไม่จริงบ้างเรียกตรวจสอบมันดะไป
- ถ้ามีมาตรฐานพอสำหรับประเทศนี้และมีความกล้าพอ ให้ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบพลังงานทหาร เล่าแจ้งแถลงไขออกมาทางทีวีเหมือนเช่นทำกับคนเสื้อแดง
- ตรวจสอบให้พบ. บอกกล่าวกับประชาชนทำให้เหมือนกับว่าดีเอสไอ กินเงินเดือนที่มาจากประชาชนจริงๆเป็นกลางพอที่จะเชื่อถือได้
- ให้ผู้คนมีความหวังในกระบวนการยุติธรรมบ้าง อย่าตรวจสอบแบบมักง่าย เฉกหมอพรทิพย์ตรวจสอบจีที200 ที่เมื่อตรวจแล้วสังคมยังประณามไม่เลิกจนทุกวันนี้
- โปรดอย่าทำเยี่ยงนั้น อะไรผิดอะไรถูกกล้าๆหน่อย เอาความเป็นนิติรัฐ, เอาศักดิ์ศรีของตนเองและสถาบันคืนมาไม่ว่าใครหน้าไหนทุจริตจัดการให้หมด
- เรื่องแค่นี้ไม่ทราบว่าจะช่วยจัดการได้ไหมสิ่งที่สังคมวิพากษ์ไม่เลิก มีเหตุผลพอจะเชื่อได้ดังนี้
* 1.มันไม่เคยมีน้ำมันอยู่มานานแล้ว ทุกอย่างมันมีแต่ตัวเลข
* 2.น้ำมันถูกเอาไปหมุน ยังไม่ถึงเวลาครบรอบที่จะเอากลับคืนมา ในความหมายก็คือ..
* 2.1 น้ำมันถูกขายออกไปแล้วในขณะที่ราคาตลาดสูงและจะซื้อกลับคืนมาในขณะที่ราคาน้ำมันถูกกว่านี้บังเอิญเกิดเหตุซะก่อนน้ำมันจึงหมุนกลับมาไม่ทัน
* 2.2ซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า มีแต่ตัวเลขไม่เคยมีน้ำมันจริงๆ
* 3.น้ำมันกลายเป็นทองแท่งไปชั่วขณะ ตั้งแต่ออกจากสิงคโปร์แล้ว // 4.น้ำมันกลายเป็นดอกเบี้ยงอกเงยได้ ถ้าตัวน้ำมันเองไม่ได้อยู่ในถัง
- เพราะสิ่งที่ประชาชนมองเห็นอยู่ขณะนี้คือได้พบ แหล่งพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกแล้ว
- สามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องลงทุนสร้างโรงกลั่นน้ำมันเพิ่ม
- ตัวเลข70ล้านลิตร เป็นเงิน2100ลบ.บ่อน้ำมันแหล่งใหญ่อยู่ตรงนี้เอง เพียงเรียกคืนจากทหาร นำมาคืนกับประชาชน ประโยชน์ก็จะตกกับประชาชนโดยแท้
- นั่นคือตัวเลขที่ กรมพลังงานทหารจะต้องตอบคำถามนี้ว่าใครทำอะไรกับเงินก้อนมหึมาอันนี้
- หลายท่านคงรู้เรื่องนี้ดีโดยเฉพาะพวกที่มีญาติมิตรเป็นทหารหรือตนเองรับราชการ ท.ทหาร
- นายทหารผู้ใหญ่ระดับคุมกำลังทั้งหลาย ผบ.พัน ผบ.กรม ผบ.พลผู้บัญชาการมลฑล กลุ่มคนพวกนี้จะมีคูปองน้ำมันเป็นกระตั๊ก
- เรียกว่าเมื่อตนเองปลดเกษียณไปแล้วหรือเสียชีวิตไปแล้วลูกเมียที่ยังคงอยู่ อีก10ปีก็ใช้น้ำมันพวกนี้ไม่หมดเป็นมรดกตกทอดกันไปเลย
- น้ำมันที่เป็นคูปองเติมได้ตลอดชีวิตนี้มันอยู่ที่ไหนมันก็อยู่ในปั้มน้ำมันทั่วไปนี่เองในคูปองนี้จะระบุให้เสร็จแต่ละคูปองเป็นจำนวนลิตร
- เช่นในคูปองระบุเป็นน้ำมันดีเซล 40ลิตรแต่บังเอิญรถของเราที่เข้าไปเติมใช้น้ำมันเบนซินเราจะขอเปลี่ยนจากน้ำมันโซล่าเป็นน้ำเบนซินก็ได้
- โดยเทียบอัตราส่วนตามความเป็นจริง ณ.ขณะนั้นหรือหากวันใดขาดแคลนเงินสดขึ้นมาก็สามารถไปแลกเป็นเงินสดแทนก็ย่อมได้อีก
- ที่กล่าวมานี้ เป็นแค่หน่วยงานเล็กๆหน่วยหนึ่งในหน่วยงานทหารที่มีค่ายทหารอยู่แทบจะทุกจังหวัดในประเทศไทยเท่านั้น
- ยังไม่รวมถึงระดับคีย์แมนบิ๊กๆในกองทัพที่มองเรื่องน้ำมันแค่นี้เป็นแค่น้ำจิ้ม ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลยแบ่งๆกันไป
- 70ล้านลิตรที่ผมเขียนไว้ในตอนต้นคืออะไรหลายท่านคงเดาออกมันคือน้ำมันที่หายไปจากคลังน้ำมันของกรมพลังงานทหาร
- และที่มีเรื่องนี้แดงขึ้นมาก็เพราะบังเอิญมีใครก็ไม่อาจทราบได้ชี้เบาะแสให้โดยการยิงจรวดอาร์พีจี เข้าไปในถังน้ำมันที่บรรจุ 10ล้านลิตร
- เมื่อถังทะลุ น้ำมันดันไม่มี และเมื่อสำรวจดู ผลปรากฏว่าน้ำมันนั้นหายไปจากถังถึง7ถัง รวมกันทั้งหมด 70ล้านลิตร
- มีความพยายามจะออกมาบอกว่าน้ำมันนั้น ได้ถูกเบิกไปแล้วเมื่อครั้งออกมาฆ่าประชาชนที่ราชประสงค์
- แต่ข้อเท็จจริงมันไม่ใช่เพราะ นี่คือคลังน้ำมันสำรองของกรมพลังงานทหารกฎหมายระบุไว้ชัดเจนคลังน้ำมันสำรองนี้จะต้องเต็มเสมอ
- เป็นการสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคงของประเทศ เผื่อไว้ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มิอาจคาดการณ์ได้เท่านั้น
- น้ำมันนี้จะถูกเบิกไปใช้ไม่ได้เลยไม่ว่าเกิดเหตุใดๆนอกเสียจากเกิดวิบัติครั้งใหญ่จนไม่สามารถหาที่อื่นมาใช้ได้จึงสามารถนำน้ำมันนี้ออกมาใช้
- และเมื่อนำมาใช้แล้วจะต้องรีบหากลับมาใช้คืนโดยด่วนความจริงเรื่องนี้มันตรวจสอบไม่ยาก น้ำมันนั้นหายไปไหนใครเอาน้ำมันนี้ออกไป เอาไปทำอะไร
- แค่ ตรวจสอบเส้นทางเดินของน้ำมัน มันง่ายกว่าการตรวจสอบเส้นทางของการเงินซะอีก แค่ตรวจดู บ/ชการเบิกจ่ายน้ำมัน แค่นั้น ก็จะพบอะไรแล้ว
- ถ้าน้ำมันไม่มีการเบิกจ่ายแต่ก็ไม่มีเหลือในถัง สรุปได้ทันทีเลยว่า หาย ไม่มากเรื่อง
- แต่ถ้าพบการเบิกจ่ายก็ตรวจสอบแค่คนอนุมัติก็จะพบเส้นทางคนทำผิดแล้ว
- ดีเอสไอสามารถตรวจสอบเส้นทางเงินของคนเสื้อแดง สลับซับซ้อนมากมายยังสามารถเรียกมาตรวจสอบได้เกือบ100คนทั้งจริงบ้างไม่จริงบ้างเรียกตรวจสอบมันดะไป
- ถ้ามีมาตรฐานพอสำหรับประเทศนี้และมีความกล้าพอ ให้ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบพลังงานทหาร เล่าแจ้งแถลงไขออกมาทางทีวีเหมือนเช่นทำกับคนเสื้อแดง
- ตรวจสอบให้พบ. บอกกล่าวกับประชาชนทำให้เหมือนกับว่าดีเอสไอ กินเงินเดือนที่มาจากประชาชนจริงๆเป็นกลางพอที่จะเชื่อถือได้
- ให้ผู้คนมีความหวังในกระบวนการยุติธรรมบ้าง อย่าตรวจสอบแบบมักง่าย เฉกหมอพรทิพย์ตรวจสอบจีที200 ที่เมื่อตรวจแล้วสังคมยังประณามไม่เลิกจนทุกวันนี้
- โปรดอย่าทำเยี่ยงนั้น อะไรผิดอะไรถูกกล้าๆหน่อย เอาความเป็นนิติรัฐ, เอาศักดิ์ศรีของตนเองและสถาบันคืนมาไม่ว่าใครหน้าไหนทุจริตจัดการให้หมด
- เรื่องแค่นี้ไม่ทราบว่าจะช่วยจัดการได้ไหมสิ่งที่สังคมวิพากษ์ไม่เลิก มีเหตุผลพอจะเชื่อได้ดังนี้
* 1.มันไม่เคยมีน้ำมันอยู่มานานแล้ว ทุกอย่างมันมีแต่ตัวเลข
* 2.น้ำมันถูกเอาไปหมุน ยังไม่ถึงเวลาครบรอบที่จะเอากลับคืนมา ในความหมายก็คือ..
* 2.1 น้ำมันถูกขายออกไปแล้วในขณะที่ราคาตลาดสูงและจะซื้อกลับคืนมาในขณะที่ราคาน้ำมันถูกกว่านี้บังเอิญเกิดเหตุซะก่อนน้ำมันจึงหมุนกลับมาไม่ทัน
* 2.2ซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า มีแต่ตัวเลขไม่เคยมีน้ำมันจริงๆ
* 3.น้ำมันกลายเป็นทองแท่งไปชั่วขณะ ตั้งแต่ออกจากสิงคโปร์แล้ว // 4.น้ำมันกลายเป็นดอกเบี้ยงอกเงยได้ ถ้าตัวน้ำมันเองไม่ได้อยู่ในถัง
- เพราะสิ่งที่ประชาชนมองเห็นอยู่ขณะนี้คือได้พบ แหล่งพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกแล้ว
- สามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องลงทุนสร้างโรงกลั่นน้ำมันเพิ่ม
- ตัวเลข70ล้านลิตร เป็นเงิน2100ลบ.บ่อน้ำมันแหล่งใหญ่อยู่ตรงนี้เอง เพียงเรียกคืนจากทหาร นำมาคืนกับประชาชน ประโยชน์ก็จะตกกับประชาชนโดยแท้
Subscribe to:
Posts (Atom)